4. อตปนียสุตฺตํ
[31] วุตฺตญฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา อตปนียาฯ กตเม ทฺเว? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ กตกลฺยาโณ โหติ, กตกุสโล, กตภีรุตฺตาโณ, อกตปาโป, อกตลุทฺโท, อกตกิพฺพิโสฯ โส ‘กตํ เม กลฺยาณ’นฺติปิ น ตปฺปติ, ‘อกตํ เม ปาป’นฺติปิ น ตปฺปติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ทฺเว ธมฺมา อตปนียา’’ติฯ เอตมตฺถํ ภควา อโวจฯ ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘กายทุจฺจริตํ หิตฺวา, วจีทุจฺจริตานิ จ;
มโนทุจฺจริตํ หิตฺวา, ยญฺจญฺญํ โทสสญฺหิตํฯ
‘‘อกตฺวากุสลํ กมฺมํ, กตฺวาน กุสลํ พหุํ;
กายสฺส เภทา สปฺปญฺโญ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติฯ
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติฯ จตุตฺถํฯ
5. ปฐมสีลสุตฺตํ
[32] วุตฺตญฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเยฯ กตเมหิ ทฺวีหิ? ปาปเกน จ สีเลน, ปาปิกาย จ ทิฏฺฐิยาฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย’’ติฯ เอตมตฺถํ ภควา อโวจฯ ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘ปาปเกน จ สีเลน, ปาปิกาย จ ทิฏฺฐิยา;
เอเตหิ ทฺวีหิ ธมฺเมหิ, โย สมนฺนาคโต นโร;
กายสฺส เภทา ทุปฺปญฺโญ, นิรยํ โสปปชฺชตี’’ติฯ
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติฯ ปญฺจมํฯ
6. ทุติยสีลสุตฺตํ
[33] วุตฺตญฺเหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเคฯ กตเมหิ ทฺวีหิ ? ภทฺทเกน จ สีเลน, ภทฺทิกาย จ ทิฏฺฐิยาฯ